4 วิธีดูแลรักษา ตู้แช่เย็น ดูแลอย่างไร ให้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น!!
4 วิธีดูแลรักษา ตู้แช่เย็น ดูแลอย่างไร ให้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น!!
ที่ Siamcooling นำวิธีดูแลรักษาตู้แช่เย็น ทำเองได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด
-
ตั้งตู้แช่ไม่ชิดกำแพง
-
ทำความสะอาดตู้แช่ให้ถูกต้อง
-
แช่สินค้าให้เหมาะกับตู้แช่
-
อ่านคู่มือการใช้งาน
การดูแลรักษาตู้เย็น ที่ช่วยลดงานหนัก ยืดอายุการใช้งาน
การดูแลรักษาตู้เย็น ที่ช่วยลดงานหนัก ยืดอายุการใช้งาน
“ตู้เย็นนั้นเป็นองค์ประกอบสำคัญของคำว่าบ้าน เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นสำคัญที่ทุกบ้านมีและใช้งานหนักเพราะต้องช่วยให้อาหารและวัตถุดิบยังคงคุณภาพความสดใหม่ ตู้เย็นเป็นตู้ที่ถูกเปิดใช้งานอย่างตลอดทั้งวัน แต่เราจะทำอย่างไร เพื่อดูแลรักษาตู้เย็น ที่ทำงานหนักและยืดอายุการใช้งาน”
ที่ Siamcooling นำวิธีการดูแลรักษาตู้เย็น ที่ช่วยลดงานหนัก ยืดอายุการใช้งาน ดังนี้
1. ไม่ใส่ของในตู้มากกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
การยัดทุกอย่างเข้าตู้เย็นจนแน่นไปหมดจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักเกินไป เพราะต้องคอยทำความเย็นให้กระจายอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอเพื่อรักษาคุณภาพของอาหารไว้
2. เหลือพื้นที่ด้านนอก
ไม่ควรวางตู้เย็นให้ชิดผนัง ด้านหลัง ควรมีพื้นที่ว่างอย่างน้อย 15 เซนติเมตร เพื่อให้ตู้เย็นได้มีพื้นที่ระบายความร้อนออกมาได้ดีขึ้น ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป
3. หลีกเลี่ยงวางตู้เย็นใกล้ความร้อน
บริเวณใกล้ ๆ ตู้เย็นนั้นไม่ควรมีเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิด ๆ อื่น ที่ให้ความร้อนอย่าง เตาอบ เตาแก๊ส หรือหม้อไฟฟ้าต่าง ๆ ที่ต้องใช้เป็นประจำ เพราะตู้เย็นต้องรับมือกับความร้อนที่อยู่ใกล้เคียงซึ่งมีโอกาสเข้ามาในตู้ได้มากขึ้น
4. ไม่ควรนำน้ำแข็งที่เกาะอยู่ภายในตู้ มาใช้งาน
หากเกิดปัญหาเรื่องของน้ำแข็งที่เกาะในช่องแช่แข็งและสะสมมากขึ้น ไม่ควรงัดแงะให้น้ำแข็งหลุดล่อนออกมา ควรหมั่นกดละลายน้ำแข็งอย่างสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่เหมาะสม
5. ไม่นำอาหารที่ร้อนเข้าตู้เย็น
หากอาหารยังมีความร้อนอยู่ อย่าเพิ่งจับใส่ตู้เย็นเพราะทำให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักเพิ่มอีกเป็นเท่าตัว กว่าตู้เย็นจะปรับอุณหภูมิของอาหารที่ร้อนลงมาได้นั้น ต้องใช้ความเย็นมากกว่าปกติ
6. ไม่ควรเปิดตู้เย็นบ่อย ๆ หรือค้างไว้
การเปิด-ปิดตู้เย็นบ่อย ๆ หรือเปิดไว้นาน ๆ จะยิ่งทำให้ความร้อนจากภายนอกเข้ามาในตู้มากขึ้น ระบบภายในจึงต้องเพิ่มการทำงาน เพื่อให้ความเย็นกลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม
7. ไม่ควรใช้เต้าเสียบรวมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ
ไม่ควรใช้เต้าเสียบรวมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่ต้องใช้งานหนักเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง ตู้อบ หรือหม้อหุงข้าว แต่ควรติดตั้งเต้าเสียบที่แข็งเเรงแยกต่างหากโดยเฉพาะ เพื่อให้รองรับกับการใช้งานได้อย่างเหมาะสม
8.ตรวจเช็คขอบยางประตูตู้เย็น
เพราะถ้าเกิดประตูตู้เย็นปิดได้ไม่แน่นก็จะมีความชื้นเข้าไปได้มากขึ้น ทำให้กลายเป็นน้ำแข็งเกาะสะสมตัวมากขึ้น จนลดประสิทธิภาพในการทำความเย็นลง
5 เหตุผลว่าทำไมต้องมี “ตู้แช่แข็ง”
หลาย ๆ ท่านคงรู้จักและคุ้นเคยกับการแช่แข็งอาหาร ผักสด ผลไม้ เนื้อสัตว์ เครื่องดื่ม น้ำนม รวมถึงวัตถุดิบต่าง ๆ เพื่อถนอมอาหาร ซึ่งกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน ด้วยสาเหตุจากหลาย ๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกในการจัดเก็บและนำมาบริโภค หรือมีสถานการณ์จำเป็นเกิดขึ้น เช่น การล็อกดาวน์ในช่วงโรคระบาดที่ผ่านมาทำให้ต้องกักตุนอาหาร ไปจนถึงการขาดแคลนวัตถุดิบประกอบอาหารบางอย่างในบางฤดูกาล เป็นต้น ซึ่งการใช้งานตู้แช่แข็ง ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การจัดเก็บอาหาร วัตถุดิบ ผักผลไม้ หรือเป็นตู้แช่น้ำนม ฯลฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและคงคุณภาพที่ดี โดยเหตุผลสำคัญที่จะยืนยันว่าทำไมเราควรมีตู้แช่แข็งที่บ้าน? แล้วการกินอาหารแช่แข็งจะมีผลเสียต่อสุขภาพจริงหรือไม่? ตลอดจนเคล็ดลับในการแช่แข็งอาหารและวัตถุดิบต่าง ๆ อย่างเหมาะสมจะทำได้อย่างไร? ในบทความนี้มีคำตอบ
-
- ตู้แช่แข็งช่วยยืดอายุการจัดเก็บอาหารให้นานขึ้น
หากจัดเก็บอย่างถูกวิธี จะทำให้คุณเก็บอาหารและวัตถุดิบต่าง ๆ ได้นานมากขึ้นและไม่ทำให้ปริมาณสารอาหารลดลงอีกด้วย ตัวอย่างเช่น- การเก็บอาหารแช่แข็ง โดยการนำอาหารปรุงสุกใส่ถุงจากนั้นนำไปทำให้เย็นเพื่อลดอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว โดยการใส่ในหม้อหรือหลุมสแตนเลสที่แช่อยู่ในน้ำเย็นจัดพร้อมน้ำแข็งประมาณ 15 นาที แล้วจึงนำไปแพ็กให้มิดชิดด้วยบรรจุภัณฑ์ อย่างเช่น กล่องที่มีฝาปิด หรือถุงสูญญากาศ เพื่อป้องกันไม่ให้หกเลอะเทอะหรือมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกมา จากนั้นจึงนำไปแช่ในตู้แช่แข็งที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า -18 องศาเซลเซียส เพื่อเริ่มต้นการเก็บรักษาในระยะเวลายาวนาน และพร้อมต่อการนำกลับมารับประทานในอนาคต
- การแช่แข็งเนื้อสัตว์ ให้หั่นเนื้อสัตว์ออกเป็นชิ้นขนาดต่าง ๆ ตามปริมาณที่ต้องการนำมาใช้ประกอบอาหารในแต่ละครั้ง จากนั้นแยกใส่ถุงพลาสติกซิปล็อก แล้วนำไปแช่แข็งที่ที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส ก็จะเก็บได้อย่างยาวนานหลายเดือน
- การแช่แข็งผัก ผลไม้ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่กำลังคุมน้ำหนักหรือชื่นชอบเมนูสมูตตี้เย็น ๆ ชื่นใจ สามารถนำผักหรือผลไม้มาล้างทำความสะอาด ปอกและหั่นเป็นชิ้นประมาณพอดีคำ จากนั้นวางเรียงในถาดแบบไม่ให้แต่ละชิ้นซ้อนหรือติดกัน แล้วนำไปแช่ในตู้แช่แข็งประมาณ 60 นาทีจนผักและผลไม้แข็ง สุดท้ายนำมาบรรจุในถุงสูญญากาศแล้วจัดเก็บในตู้แช่แข็งต่อจนกว่าจะนำมาบริโภคต่อไป
- การแช่แข็งน้ำนม หลังจากที่คุณแม่ทำการปั๊มนมแล้วจัดเก็บลงในถุงเก็บน้ำนมแล้ว ให้นำเข้าตู้แช่แข็งทันที เพราะความเย็นจะช่วยคงคุณค่าของสารอาหารในน้ำนมแม่ให้ยังคงอยู่ได้มากที่สุด และป้องกันการเกิดกลิ่นหืนหรือความร้อนที่จะทำให้นมบูดง่าย โดยหากเลือกใช้ตู้แช่แข็งเป็นตู้แช่น้ำนมโดยเฉพาะ ไม่ปะปนกับอาหารหรือสิ่งอื่น ๆ ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า -20 องศาเซลเซียส ก็จะช่วยให้สามารถเก็บรักษาน้ำนมแม่อย่างมีคุณภาพไว้ได้นานถึง 6 เดือน และไม่ต้องกังวลว่าจะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือการปนเปื้อนจากถุงอาหารแช่แข็งอื่น ๆ ด้วย
และนอกจากการจัดเก็บแล้ว การนำอาหารแช่แข็งอาหารและเครื่องดื่ม น้ำนม แช่แข็งเนื้อสัตว์ กลับมารับประทานอย่างถูกวิธีก็มีความสำคัญเช่นกัน ซึ่งมีเคล็ดลับการทำให้อาหารแช่แข็งละลายโดยไม่เสียคุณค่าทางโภชนาการและยังคงรูปลักษณ์ที่น่ารับประทานหลายวิธี อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นคุณต้องหลีกเลี่ยงการวางอาหารแช่แข็งทิ้งไว้ให้ละลายเองตามอุณหภูมิห้อง เพราะวิธีนี้จะยิ่งทำให้แบคทีเรียที่คงค้างเจริญเติบโตได้ดี แต่ควรใช้วิธีการ เช่น ใช้ไมโครเวฟโหมด Defrost เพื่อละลายน้ำแข็ง, การแช่อาหารแช่แข็งในน้ำเย็นประมาณ 2-3 ชั่วโมง หรือนำมาแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 1 วัน เพื่อทำให้ความเย็นลดลงโดยที่ไม่่เสียรสชาติหรือคุณค่าทางของสารอาหารไป, ตลอดจนหากเป็นอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทาน ก็สามารถนำมาอุ่นหรือปรุงสุกได้ทันที และเมื่อละลายอาหารแช่แข็งแล้ว ควรนำมาอุ่นหรือปรุงสุกแล้วรับประทานให้หมด ไม่ควรนำกลับไปแช่เย็นหรือแช่แข็งซ้ำ
- ตู้แช่แข็งมีฟังก์ชันการทำงานที่สะดวกสบายต่อการใช้สอย ไม่ว่าจะเป็น
- ระบบทำความเย็นแบบปรับระดับได้ตามต้องการ บางรุ่นสามารถเร่งทำความเย็นในเวลาอันรวดเร็วด้วยระบบ Quick Freezing ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บความสดใหม่ของอาหารได้เป็อย่างดี
- รูปทรงและดีไซน์ของตู้แช่แข็งมีให้เลือกหลากหลาย เช่น ตู้แช่แข็งขนาดเล็กทรงต่ำ ซึ่งมักจะมีฝาเปิดและปิดด้านบน หรือตู้แช่แข็งฝาทึบ ซึงมีขนาดให้เลือกใช้หลากหลายตั้งแต่รุ่นเล็ก ๆ ไม่ถึง 1 คิว ไปจนถึงขนาดใหญ่หลายสิบคิวตามความต้องการในการใช้แช่แข็งหรือความเหมาะสมของพื้นที่ที่ต้องการวาง หรือตู้แช่แข็งทรงสูง ที่มีฝาตู้เป็นประตูเปิดและปิดคล้ายกับตู้เย็นทั่วไป และมักจะมีชั้นวางแบ่งเป็นหลายระดับ ทำให้แช่แข็งสิ่งของต่าง ๆ ได้เป็นอย่างระเบียบและหยิบใช้ง่าย
- ฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ เช่น มีล้อเลื่อนให้สามารถเคลื่อนย้ายที่ตั้งได้ง่าย, มีระบบไฟแจ้งเตือน กรณีที่ภายในตู้มีอุณหภูมิสูงขึ้น, มีระบบไฟส่องสว่างภายในตู้แช่แข็ง, หรือมีระบบรักษาความปลอดภัย สามารถล็อกตู้เพื่อป้องกันสิ่งของหรือสินค้าที่แช่อยู่ภายในตู้ เหมาะกับการใช้งานในร้านค้าหรือธุรกิจต่าง ๆ ได้ เป็นต้น
- ตู้แช่แข็งมีประสิทธิภาพในการเก็บความเย็นอย่างคงที่
แม้ว่าจะมีการเปิดประตูตู้บ่อยครั้ง ก็จะยังคงสามารถรักษาความเย็นที่ระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่องได้ ในกรณีที่ไฟฟ้าดับหรือถอดปลั๊กออก ตู้แช่แข็งก็จะยังคงเก็บรักษาความเย็นได้ต่อเนื่องถึง 1-2 วันหากไม่เปิดตู้ ซึ่งจะช่วยให้อาหาร วัตถุดิบ หรือสิ่งของที่อยู่ภายในตู้แช่แข็ง ตู้แช่ปลา ตู้แช่น้ำนม ตู้แช่เบียร์วุ้น ยังคงคุณภาพและปลอดภัยต่อการนำกลับมาบริโภคได้ - มีพื้นที่จัดเก็บการแช่แข็งอย่างเพียงพอ
เนื่องจากการใช้งานช่องแช่แข็งภายในตู้เย็นเพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอกับการจัดเก็บอาหารและวัตถุดิบต่าง ๆ ที่เพิ่มมากขึ้นตามระยะเวลา หรือเมื่อมีปริมาณมากขึ้น อาจทำให้ประสิทธิภาพในการทำความเย็นนั้นไม่ทั่วถึง ตลอดจนหากมีการจัดเก็บอาหาร ของสด โดยเฉพาะในตู้เย็นประตูเดียว ก็อาจจะทำให้น้ำดื่ม เครื่องดื่มมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ติดมาด้วยได้ ดังนั้น การมีตู้แช่แข็งจึงเป็นที่สำหรับจัดเก็บอาหาร ผัก ผลไม้ ตู้แช่ปลา อาหารแช่แข็งสำเร็จรูป หรือเป็นตู้แช่น้ำนมได้อย่างเป็นสัดส่วน สะดวกต่อการนำมารับประทานในภายหลัง ช่วยแบ่งเบาภาระของช่องแช่แข็งในตู้เย็นได้เป็นอย่างดี - การดูแลรักษาตู้แช่แข็งไม่ยุ่งยาก และคุ้มค่าในระยะยาว
แม้ตู้แช่แข็งจะดูเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่ได้กินไฟมากจนเกินจำเป็น เพราะส่วนใหญ่ก็จะได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จาก กฟผ. เป็นสิ่งยืนยัน รวมถึงหากจัดเก็บอาหารและสิ่งของอย่างเป็นระเบียบ และดูแลรักษาด้วยการละลายน้ำแข็งที่เกาะอยู่ในตู้แช่แข็งอย่างน้อยแค่ปีละ 2 ครั้ง เพื่อช่วยให้ตู้แช่แข็งไม่ต้องทำงานหนักเกินความจำเป็น มีความเย็นที่คงที่ ก็จะทำให้คุณประหยัดค่าไฟได้ และเป็นการยืดอายุการใช้งานเครื่องไปในตัวนอกจากนี้ หากคุณเลือกใช้ตู้แช่แข็งเฉพาะกิจ เช่น ใช้เป็นตู้แช่น้ำนมสำหรับคุณแม่ และเมื่อใช้จนครบกำหนดแล้วก็สามารถนำไปใช้แช่อาหารหรือเครื่องดื่มในบ้านต่อได้ หรือจะขายให้กับคุณแม่ท่านอื่น ๆ ได้ใช้งานต่อก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเช่นกัน
- ตู้แช่แข็งช่วยยืดอายุการจัดเก็บอาหารให้นานขึ้น
จะเห็นได้ว่าการมีตู้แช่แข็ง ไม่เพียงแค่อำนวยความสะดวกให้คุณสามารถจัดเก็บอาหารและวัตถุดิบเพื่อบริโภคได้อย่างเป็นสัดส่วนและยาวนานขึ้นเท่านั้น แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณค่าทางโภชนาการสูงด้วย
เปิดร้านขายของชำซักร้าน ต้องใช้ตู้แช่แบบไหน? มาดูกันเลย!!
เปิดร้านขายของชำซักร้าน ต้องใช้ตู้แช่แบบไหน? มาดูกันเลย!!
“หนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญของร้านขายของชำที่มูลค่าค่อนข้างสูง คือ ตู้แช่ โดยสามารถเลือกได้ประมาณ 3 รูปแบบ”
1.) ตู้แช่ 1 ประตู ซึ่งเป็นตู้แช่ขนาดเล็ก เหมาะกับร้านขายของชำท้องถิ่น
2.) ตู้แช่ 2 ประตู มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เหมาะสำหรับร้านขายของชำขนาดใหญ่
3.) ตู้ไอติม หรือตู้ไอศครีม สำหรับร้านขายของชำที่ต้องการมีตู้ไอศครีม ราคามีเริ่มต้นตั้งแต่หลักพักจนถึงหลักหมื่นเลย
รู้หรือไม่??การติดตั้งตู้แช่ ไม่ควรวางใกล้พื้นที่ ที่มีความร้อน 🔥🔥
รู้หรือไม่??การติดตั้งตู้แช่ ไม่ควรวางใกล้พื้นที่ ที่มีความร้อน 🔥🔥
เคล็ด(ไม่)ลับ
การติดตั้งตู้แช่ไม่ควรวางใกล้พื้นที่ที่ใกล้ความร้อน เช่น วางใกล้เตาแก๊ส หรือที่ที่แสงแดดส่องถึง เพราะอาจทำให้ตู้แช่สะสมความร้อนส่งผลไปถึงคอมเพรสเซอร์ รวมไปถึงการติดตั้งตู้แช่ชิดผนังมากเกินไป จนไม่มีพื้นที่ระบายความร้อน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้การทำงานของตู้แช่รับภาระหนักมากกว่าปกติและอาจเป็นปัญหาสะสมจนส่งผลให้มีอายุการใช้งานที่สั้นลงได้เช่นเดียวกัน